ʶҹ·Õè·èͧà·ÕèÂÇ Í.àÁ×ͧ

 

 

ʶҹ·Õè¹èÒʹ㨠ã¹à¢µÍÓàÀÍàÁ×ͧ

    
อำเภอเมือง อยู่ห่างจากกรุงเทพ 129 กิโลเมตร เป็นศูนย์กลางของจังหวัดและเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการต่าง ๆ มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่งเช่น สะพานข้ามแม่น้ำแคว สุสานทหารสัมพันธมิตร พิพิทธภัณฑ์สงคราม เป็นต้น มีสถานที่พักหลายระดับ ทั้งโรงแรมระดับ 5 ดาว รีสอร์ต บังกะโลและเกสท์เฮ้าส์ราคาถูก นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รวมธุรกิจหลายประเภท เช่น สนามกอล์ฟ ห้างสรรพสินค้า และศูนย์การประชุมสัมนา
       การเดินทาง   การเดินทางภายในจังหวัด นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถประจำทางสีส้ม หรือ สามารถเช่ารถจักรยานยนต์จากเกสต์เฮ้าส์ที่ไม่ไกลนัก หรือ บริษัทนำเที่ยวต่าง ๆ เดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ภายในตัวจังหวัดจากท่าเรือบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว และท่าเรือวัดไชยชุมพล ( พิพิธภัณฑ์สงคราม ) ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีบริการแพท่องเที่ยวตามแม่น้ำแควน้อย ติดต่อขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ททท. ภาคกลาง เขต 1 โทร 0-3451-1200 , 0-3451-2500

    สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย และฮอลันดา จำนวนมากมาสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ผ่านประเทศพม่า ซึ่งมีส่วนหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่ การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะความทารุณของสงครามและโรคภัยตลอดจนขาดอาหาร ทำให้เชลยศึกหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง สะพานข้ามแม่น้ำแควตั้งอยู่ที่ตำบลท่ามะขาม หางจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือตามทางหลวงหมายเลข 323 ประมาณ 4 กิโลเมตร แยกซ้ายประมาณ 400 เมตร มีป้ายเขียนบอกไว้ชัดเจน

travel3_2.JPG (19484 bytes)

t12.jpg (13413 bytes)

    ทางรถไฟสายมรณะ ทางรถไฟสายนี้เริ่มต้นจากสถานีหนองปลาดุก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ผ่านเข้ากาญจนบุรีข้ามแม่น้ำแควใหญ่ไปทางทิศตะวันตกผ่านด่านเจดีย์สามองค์ จนถึงปลายทางที่เมืองตันบีอุซายัตประเทศพม่า ทิวทัศน์ตลอดเส้นทางนี้สวยงามมาก โดยเฉพาะบริเวณถ้ำกระแซ ที่นี้เส้นทางรถไฟจะลัดเลาะตามหน้าผาเลียบไปกับแม่น้ำแควน้อย ปัจจุบันเส้นทางสายนี้ ไปสุดปลายทางที่บ้านท่าเสาหรือสถานีน้ำตก ระยะทางจากสถานีกาญจนบุรีถึงสถานีน้ำตกเป็นระยะทางประมาณ 77 กิโลเมตร การรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดเดินรถบนเส้นทางนี้ทุกวัน และจัดรถไฟขบวนพิเศษสายกรุงเทพ - น้ำตก ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร 0-2223-7010 และ 0-2223-7020

                                  wpe7.jpg (5073 bytes)
    พิพิธภัณฑ์อักษะเชลย หรือพิพิธภัณฑ์สงครามวัดใต้ ตัวอาคารสร้างเป็นกระท่อมเลียนแบบค่ายเชลยศึกในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นที่เก็บรวบรวมภาพวาดและภาพถ่าย ตลอดจนเครื่องมือ เครื่องใช้ อาวุธมือและลูกระเบิดที่ใช้ในสมัยนั้น พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ในบริเวณวัดไชยชุมพล ( วัดใต้ ) ถนนไชยชุมพล ในตัวเมืองกาญจนบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 - 18.00 น. ค่าเข้าชมชาวไทย 5 บาท ชาวต่างชาติ 25 บาท

wpe8.jpg (4322 bytes)

wpeF.jpg (4793 bytes)

    หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นสถานที่เก็บรักษาสิ่งที่เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้แก่ อาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ โครงกระดูกของเชลยสงคราม และภาพถ่ายเหตุการณ์ในสมัยนั้น นอกจากนี้บางส่วนยังจัดเป็นหอศิลป์ เก็บรวบรวมสิ่งของต่าง ๆ เช่น แสตมป์ ไปรษณียบัตรโบราณ เพชร พลอย และเครื่องประดับ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00-18.30 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 30 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ โทร 0 -3451-2596


                                           wpe9.jpg (3015 bytes)
    สุสานทหารสัมพันธมิตร เนื่องจากการเกณฑ์ทหารสัมพันธมิตรมาสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ ผ่านกาญจนบุรีไปประเทศพม่าของทหารญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเหต์ให้เชลยศึกสัมพันธมิตรเสียชีวิตลงที่กาญจนบุรีเป็นจำนวนมาก ชาวไทยจึงได้อุทิศที่ดินให้เป็นที่ฝังศพผู้เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งมีอยู่ 2 แห่ง คือ

                                War_Cemetery.JPG (7972 bytes)
    - สุสานกาญจนบุรี ( ดอนรัก ) อยู่บริเวณหลังสถานีรถไฟกาญจนบุรี ห่างจากตัวเมืองออกไปทางเหนือประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นสุสานที่กว้างขวาง และเงียบสงบ บรรจุศพทหารเชลยศึกถึง 6,982 คน

                         kanpic4.jpg (16860 bytes)
    - สุสานเขาปูน ( ช่องไก่ ) บริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของค่ายเชลยศึกขนาดใหญ่ อยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีไปทางแม่น้ำแควน้อยประมาณ 2 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถขับรถไปถึงที่ตั้งได้เลย สุสานนี้อยู่ห่างจากริมฝังน้ำประมาณ 20 เมตร ขนาดเล็กกว่าสุสานกาญจนบุรี บรรจุศพเชลยศึกรวม 1,750 หลุมซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทหารอังกฤษ

                                        wpeA.jpg (2756 bytes)
    วัดถ้ำมังกรทอง อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 4 กิโลเมตร บนฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ตั้งอยู่เชิงเขาใกล้ถ้ำ การเดินทางใช้เส้นทางที่แยกซ้ายจากศาลากลางจังหวัดไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง ไปยังวัดถ้ำมังกรทองได้ เหตุที่ได้ชื่อว่าถ้ำมังกรทองก็เนื่องมาจากมีถ้ำขนาดเล็กอยู่บนยอดเขาที่ราวบันไดทั้งสองข้าง สร้างขึ้นไว้เป็นรูปมังกรสองตัวขนาดใหญ่ขนานกันไปจนสุดทางที่ปากถ้ำ บันไดมีทั้งหมด 95 ขั้น ที่ตรงปากถ้ำมีหินใหญ่ทำเป็นหน้าสิงโตเอาไว้ดูน่าเกรงขาม วัดถ้ำมังกกรทองมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักแพร่หลายเกี่ยวกับการทำสมาธิลอยตัวในน้ำ มีผู้สนใจมาชมเป็นประจำ

                                 wpeB.jpg (6159 bytes)
   สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ตั้งอยู่ที่ทุ่งนาคราช ตำบลหนองหญ้า ในบริเวณวิทยาลัยเกษตรกรรม จังหวัดกาญจนบุรี มีเนื้อที่ 600 ไร่ ประชาชนทั่วไปเรียกสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ว่า "สวนหิน" หรือ "อุทยานหิน" เพราะในบริเวณนั้นมีหินงอกอยู่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบในเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่
    การเดินทางไปสวนหิน เส้นทางที่ใกล้ที่สุดคือการเดินทางข้ามสะพานตรงหลักเมืองไปยังฝั่งตรงข้าม เดินทางผ่านสุสานสหประชาชาติ ผ่านถ้ำเขาปูนแล้วเลี้ยวขวาเข้าวิทยาลัยเกษตรกรรม จังหวัดกาญจนบุรี ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร
    อีกเส้นทางหนึ่งไปตามถนนแสงชูโตผ่านสุสานสัมพันธมิตรถึงสี่แยกแก่งเสี้ยนเลี้ยวซ้ายผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่ไปตามเส้นทางวัดเขาปูน จะถึงบริเวณสวนสมเด็จ เส้นทางนี้มีระยะทาง 21 กิโลเมตร

   ถ้ำสัตตบรรณคูหา จากทางเข้าสวนหินมาประมาณ 1 กิโลเมตร เยื้องกับวิทยาลัยเกษตรกรรม มีทางแยกไปถ้ำอีก 1 กิโลเมตร บริเวณถ้ำเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ สภาพภูมิประเทศโดยรอบเงียบสงบและสวยงาม
    โบราณสถานในเขตเมืองกาญจนบุรีเก่า ตั้งอยู่ในเขตตำบลลาดหญ้า บริเวณนี้เคยเป็นเมืองหน้าด่าน สกัดกั้นการเดินทัพพม่าที่ยกเข้ามาทางด่านเจดีย์ ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น จนถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ประมาณปี พ.ศ. 2091-2328 สภาพปัจจุบันยังคงเหลือร่องรอยของแนวกำแพงดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 168 x 355 เมตร มีป้อมค่ายอยู่ทั้ง 4 มุม โบราณสถานโดยรอบมีวัดขุนแผน วัดแม่หม้าย วัดป่าเลไลย์ และวัดนางพิมพ์

   ถ้ำพุพระหรือวัดถ้ำขุนแผน เป็นถ้ำขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนภูเขาสูงมีประวัติเล่าว่า ขุนแผนได้นำกุมารทองมาย่างในถ้ำนี้ ถ้ำพุพระตั้งอยู่บนเส้นทางสายกาญจนบุรี - ไทรโยค - ทองผาภูมิ ( ทางหลวงหมายเลข 323 ) ตรงกิโลเมตรที่ 7 - 8 แยกซ้ายเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร มีรถประจำทางสายกาญจนบุรี - ไทรโยค วิ่งผ่านปากทางไปสู่ถ้ำนี้ด้วย โดยจะต้องเดินเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร

                                             wpeC.jpg (3608 bytes)
    พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเก่า
บ้านเก่าเป็นตำบลเล็ก ๆ ริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 35 กิโลเมตร ตามเส้นทางเดียวกับอุทยานแห่งชาติเมืองสิงห์ ( ทางหลวงหมายเลข 323 ) เป็นจุดที่ขุดพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์โบราณคดี เกี่ยวกับมนุษย์สมัยหินยุคก่อนประวัติศาสตร์เป็นแห่งแรกในประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2506 สิ่งที่ค้นพบได้แก่โครงกระดูกมนุษย์ ขวานหินและเครื่องปั้นดินเผา เปิดให้ชมทุกวัน เว้นวันจันทร์ อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.00 น.

วัดป่าเลไลยตั้งอยู่ที่ ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง บริเวณนี้เคยเป็นเมืองหน้าด่านสกัดกั้นการเดินทัพของพม่า ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้นจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น

ศูนย์วัฒนธรรมกาญจนบุรี ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎกาญจนบุรี บนถนนสายกาญจนบุรี - ไทรโยคห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นแหล่งแสดงเครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องมือที่ใช้ในการจับปลา ภาชนะดินเผาก่อนประวัติศาสตร์ หนังสือไทยโบราณ และศิลปวัตถุต่าง ๆ เปิดให้ชมตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.

                                                    wpeE.jpg (2978 bytes)
    ถ้ำมะเดื่อ อยู่ภายในบริเวณวัดถ้ำมะเดื่อ ตำบลบ้านเก่า อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร ตัวถ้ำอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย คนละฝั่งกับปราสาทเมืองสิงห์ โดยอยู่ห่างจากปราสาทเมืองสิงห์ประมาณ 1 กิโลเมตร
    การเดินทางไปวัดถ้ำมะเดื่อต้องลงเรือข้ามฟากจากท่าเรือซึ่งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟท่ากิเลนประมาณ 1 กิโลเมตร หรือถ้าไปทางรถยนต์ ต้องไปข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแควน้อยที่ตำบลบ้านเก่า และไปตามเส้นทางไปค่ายทหาร ( ค่ายไทรโยค ) ตัวถ้ำจะอยู่ห่างจากค่ายไทรโยคไปประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อเดินทางไปถึง นักท่องเที่ยวต้องติดต่อกับทางจังหวัดเพื่อขอกุญแจเปิดประตูทางเข้าถ้ำมะเดื่อ
    ภายในถ้ำมีเนื้อที่กว้างขวาง มีหินงอกหินย้อยสวยงามแตกต่างกันออกไปในแต่ละคูหา ต้องใช้เวลาในการชมประมาณ 2 ชั่วโมง ทางวัดถ้ำมะเดื่อได้ติดตั้งไฟฟ้าเพื่อให้เห็นความงดงามของถ้ำ

                                                wpeD.jpg (3123 bytes)
    วัดถ้ำพุหว้า ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองหญ้า เป็นสาขาหนึ่งของวัดปากน้ำ บรรยากาศโดยรอบสะอาด ร่มรื่น เงียบสงบ เหมาะกับผู้ที่จะเดินทางไปปฏิบัติธรรมเจริญศิลภาวนา อีกทั้งสวยงามด้วย ภูมิประเทศที่โอบล้อมด้วยภูเขา ป่าไม้ และถ้ำที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยงดงามหลายแห่ง การเดินทางไปยังถ้ำพุหว้า สามารถใช้เส้นทางไปได้ 2 เส้นทาง คือเส้นทางสายกาญจนบุรี - บ้านเก่า เลี้ยวซ้ายบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 16 ไปตามเส้นทางสายพุประดู่ - วังลาน อีก 6 กิโลเมตร ก็จะถึงทางแยกเข้าตัววัด หรือข้ามสะพานบริเวณหน้าเมืองกาญจนบุรี เดินทางผ่านวัดถ้ำเขาปูน สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ จากนั้นเลี้ยวขวาที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 48 - 49 ไปตามทางสายพุประดู่ - วังลานอีก 5 กิโลเมตร ก็จะถึงทางแยกเข้าวัด

สวนสัตว์เลี้ยงกาญจนบุรี
ตั้งอยู่ที่บ้านพุประดู่ ต.หนองบัว ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นสถานสงเคราะห์สัตว์ที่เลี้ยงสุนัขเป็นจำนวนมาก ประมาณ 2,000 ตัว

ตันจามจุรียักษ์ ตันจามจุรียักษ์ มีอายุมากกว่า 100 ปี แผ่กิ่งก้านสาขาใหญ่โตสวยงาม ขนาด 10 คนโอบ ซึ่งเหลือให้เห็นน้อยมากในปัจจุบัน อยู่บนเส้นทางไปอำเภอด่านมะขามเตี้ย ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตรจากตัวเมือง

 


แผนที่ท่องเที่ยว

 

 

mapmuang.gif (37872 bytes)